วิธีการระบุและการเทรดด้วย Inside Bar
การค้นหา Inside Bar บนกราฟนั้นค่อนข้างตรงไปตรงมาเมื่อคุณรู้ว่าต้องมองหาอะไร คุณไม่จำเป็นต้องตรวจสอบตัวบ่งชี้ใด ๆ หรือทำการคำนวณที่ซับซ้อน คุณสามารถมองเห็นได้ด้วยตาของคุณ สแกนกราฟและมองหาแท่งเทียนที่มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งอยู่ภายในช่วงของแท่งเทียนก่อนหน้าอย่างสมบูรณ์ แท่งเทียนนั้นควรมีช่วงราคาและตัวแท่งที่เล็กกว่า โดยมีจุดต่ำสุดที่สูงกว่า และจุดสูงสุดที่ต่ำกว่า
หมายเหตุ: เพียงแค่คุณเห็น Inside Bar ไม่ได้หมายความว่าการเข้าเทรดจะเป็นความคิดที่ดี
บริบทเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นจึงมีบางสิ่งที่ควรจดจำไว้ แท่ง Inside Bar มักเกิดขึ้นบริเวณระดับแนวต้านและแนวรับ ดังนั้นคุณจึงสามารถจับตาดูสิ่งเหล่านั้นได้ นอกจากนี้ยังเป็นสัญญาณที่ดีหากคุณเห็นพวกมันเกิดขึ้นระหว่างแนวโน้มที่แข็งแกร่ง เนื่องจากหมายความว่าตลาดกำลังหยุดพักชั่วคราว รอขณะที่ราคากำลังสะสมราคาและ Inside Bar ถูกบีบอัด
หลังจากที่ Inside Bar ก่อตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วให้รอการยืนยัน เมื่อคุณเห็นแท่งเทียนที่สามพุ่งทะลุขึ้นหรือลง นั่นอาจเป็นโอกาสดีในการเข้าร่วมและติดตามแนวโน้ม โดยใช้ Stop Loss เพื่อจัดการความเสี่ยง ถ้าคุณต้องการเปิดสถานะซื้อ ให้ตั้งจุดเข้าซื้อสูงกว่าจุดสูงสุดของ Inside Bar เล็กน้อย และถ้าคุณต้องการเปิดสถานะขาย ให้ตั้งจุดเข้าขายต่ำกว่าจุดต่ำสุดของ Inside Bar เล็กน้อย
จุด Stop Loss ของคุณสามารถตั้งไว้ที่จุดต่ำสุดของแท่ง Mother Bar หากแนวโน้มเป็นไปในทิศทางขาขึ้น หรือที่จุดสูงสุดของแท่ง Mother Bar หากแนวโน้มเป็นไปในทิศทางขาลง สิ่งนี้สามารถช่วยให้เทรดของคุณมีพื้นที่ในการหายใจโดยไม่ถูกหยุดจากความผันผวนของราคาเล็กน้อย เมื่อถึงเวลาเก็บกำไรและปิดสถานะของคุณ คุณสามารถตั้งขีดจำกัดที่ระดับราคาที่สมเหตุสมผลถัดไปได้ ซึ่งอาจเป็นที่จุดสูงสุดก่อนหน้านี้ บริเวณแนวต้าน หรือแม้แต่เส้นแนวโน้ม
Inside Bar ทำงานได้ดีที่สุดเมื่อทุกอย่างสอดคล้องกันสำหรับการตั้งค่าที่ดี ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณระบุแนวโน้มที่แข็งแกร่งด้วยโมเมนตัมที่ชัดเจนและระดับแนวต้านหรือระดับแนวรับที่เป็นไปได้ นอกจากนี้ยังเป็นความคิดที่ดีที่จะจับคู่กับเครื่องมืออื่น ๆ เช่น เส้นแนวโน้มและ Relative Strength Index (RSI) หากคุณพบรูปแบบ Inside Bar ขาขึ้น และ RSI แสดงว่าสินทรัพย์ถูกขายมากเกินไป นั่นจะยิ่งเสริมความน่าเชื่อถือในแนวคิดที่ว่าราคาจะทะลุขึ้นสูงขึ้นอีก ถ้าคุณเห็นรูปแบบ Inside Bar ในช่วงตลาดไซด์เวย์หรือตอนที่ราแกว่งตัวไปมาไปด้านข้าง คุณก็ไม่ต้องสนใจมัน เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น การพุ่งทะลุจะเชื่อถือได้น้อยลงและสามารถหลอกคุณได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่างการเทรด Inside Bar
รูปแบบ Bullish Inside Bar แบบต่อเนื่องบนกราฟรายวันของ EURUSD

ในกราฟรายวันของ EURUSD นี้ ตลาดแสดงให้เห็นการเคลื่อนที่ขึ้นอย่างมั่นคง โดยสร้างจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น รูปแบบ Inside Bar เกิดขึ้น โดยมีแท่ง Mother Bar สีแดง และ Inside Bar ที่เล็กกว่า ราคาหยุดพักตัวชั่วคราว และแท่งเทียนถัดไปทะลุเหนือจุดสูงสุดของ Inside Bar ที่ 1.14865 เทรดเดอร์สามารถเข้าสู่สถานะซื้อได้ที่นี่ โดยวางจุด Stop Loss ต่ำกว่าระดับต่ำสุดของแท่ง Mother Bar ที่ 1.13712 และตั้งจุด Take Profit ไว้รอบ ๆ จุดสูงสุดของการแกว่งก่อนหน้าที่ 1.18039
รูปแบบ Bearish Inside Bar บนกราฟรายวันของ GBPUSD

กราฟ GBPUSD ด้านล่างแสดงแท่งเทียนสีแดงขนาดใหญ่ที่ปรากฏขึ้นในช่วงแนวโน้มขาลงที่แข็งแกร่ง ราคาหยุดชะงักชั่วคราวพร้อมการก่อตัวของแท่งเทียนขนาดเล็กกว่า เรียกว่า Inside Bar ราคาชะลอตัวอยู่ช่วงหนึ่ง จนกระทั่งมีแท่งเทียนทะลุต่ำกว่าจุดต่ำสุดของ Inside Bar ที่ระดับ 1.32308 ซึ่งเป็นการยืนยันว่าฝั่งผู้ขายยังคงควบคุมตลาดอยู่ นั่นอาจเป็นจุดเข้าใหม่ที่ดีสำหรับสถานะขาย โดยตั้งจุด Stop Loss ไว้เหนือราคาจุดสูงสุดของแท่ง Mother Bar ที่ 1.35491 และตั้งจุด Take Profit เพื่อทำกำไรที่แนวรับถัดไป ที่ระดับประมาณ 1.25737
ข้อผิดพลาดทั่วไปที่ควรหลีกเลี่ยง
มีข้อผิดพลาดทั่วไปที่คุณควรหลีกเลี่ยงเมื่อทำการซื้อขายด้วยแท่งเทียน Inside Bar
สิ่งแรกคือการปฏิบัติต่อ Inside Bar ทุกอันที่เจอว่านั่นเป็นสัญญาณ การทำแบบนั้นมีความเสี่ยง เพราะบางครั้งรูปแบบจะเกิดขึ้นโดยบังเอิญเป็นเสียงรบกวนเฉย ๆ หรือไม่ได้พาคุณไปสู่สิ่งที่คาดหวังไว้เลย ดังนั้นคุณจึงต้องดูภาพรวมและตรวจสอบความถูกต้องเสมอ เช่นรูปแบบเกิดขึ้นในระหว่างแนวโน้มหรือไม่ มีโมเมนตัมที่ชัดเจนหรือไม่ และเกิดขึ้นแถว ๆ ระดับแนวรับหรือแนวต้านหรือไม่
เว้นแต่คุณจะมีเหตุผลที่ดี การเทรดสวนแนวโน้มมักจะเป็นความผิดพลาดด้วยเช่นกัน การเข้าใจบริบทและตรวจสอบเพื่อยืนยันกับตัวบ่งชี้อื่น ๆ ไม่ได้เป็นการรับประกันว่าคำสั่งซื้อขายนั้นจะประสบความสำเร็จ แต่คุณอย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่าจะมีโอกาสสำเร็จที่สูงขึ้น เพราะจะอ้างอิงจากข้อมูลจริงและไม่ใช่การวางคำสั่งซื้อขายแบบสุ่ม
ข้อผิดพลาดทั่วไปอีกอย่างหนึ่งคือการตั้งจุดหยุดขาดทุน หรือ Stop Loss ใกล้เกินไป โดยวางที่ขอบของจุดสูงสุดหรือต่ำสุดของ Inside Bar เลย สิ่งนี้อาจมีความเสี่ยง เพราะการกระตุกของราคาเพียงเล็กน้อยสามารถทริกเกอร์ Stop Loss และดึงคุณออกจากการเทรด แม้ว่าการตั้งค่าของคุณจะดีแล้วก็ตาม
ข้อสุดท้าย เทรดเดอร์บางครั้งก็ทำผิดพลาดโดยการเข้าเทรดเร็วเกินไป เพียงเพราะคุณเห็น Inside Bar ไม่ได้หมายความว่าคุณควรดำเนินการเลยทันที การรอให้แท่งเทียนที่แสดงการพุ่งทะลุเกิดขึ้นหลังจาก Inside Bar อาจเป็นแนวทางที่ดี หากมีการพุ่งขึ้นหรือลงด้วยโมเมนตัมที่แท้จริง นั่นอาจเป็นการยืนยันว่าการพุ่งทะลุนั้นกำลังเกิดขึ้นจริง การพลาดการเทรดสักครั้งยังดีกว่าการเทรดอย่างรีบร้อนหรือเข้าเทรดในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม
สรุป
รูปแบบ Inside Bar ช่วยให้คุณเห็นภาพที่ชัดเจนว่า ตลาดกำลังคิดอย่างไรในขณะนั้น พวกมันเป็นเหมือนช่วงเวลาหนึ่งของความลังเล ในขณะที่ความกดดันเพิ่มขึ้นก่อนที่จะเข้าสู่การเคลื่อนไหวถัดไป เมื่อใช้ในบริบทที่เหมาะสม พวกมันสามารถเป็นเครื่องมือที่ดีและมีความเสี่ยงต่ำในการหาจุดเข้าเทรดที่ดี และจับแนวโน้มได้ตั้งแต่ระยะแรกหรือเทรดตามแนวโน้มได้นานขึ้น
Inside Bar เป็นที่นิยมเพราะมันไม่ซับซ้อน และคุณไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองปวดหัวด้วยการคำนวณที่ซับซ้อนมากมาย สิ่งสำคัญคือการอดทนและรอโอกาสที่ดี ๆ รูปแบบนี้จะไม่ปรากฏทุก ๆ ห้านาที ดังนั้นกลยุทธ์นี้อาจใช้เวลานานเล็กน้อย คุณต้องอดทนและมองพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของภาพรวมที่ใหญ่กว่า การระบุรูปแบบเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การเข้าใจความหมายในบริบทเฉพาะนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
การรู้จักและเข้าใจพวกมันว่าหมายถึงอะไร จะช่วยให้คุณสามารถสังเกตเห็นเมื่อพวกมันเกิดขึ้น และเข้าใจวิธีการเทรดพวกมันหากคุณเลือกที่จะทำเช่นนั้น การเทรดไม่ใช่เพียงแค่การทำการเทรดอยู่ตลอดเวลาเพียงเพื่อทำการเทรด แต่เป็นการหาโอกาสที่เหมาะสมและรู้ว่าควรทำอะไรกับแต่ละโอกาสทั้งหมดนี้ควบคู่ไปกับการจัดการความเสี่ยง เมื่อคุณเข้าใจเรื่องนี้แล้ว การเทรดด้วยรูปแบบ Inside Bar ก็จะเป็นเหมือนไพ่ใบหนึ่งที่คุณสามารถเพิ่มเข้าไปในชุดทักษะของคุณ เพื่อใช้ด้วยความมั่นใจในเวลาที่เหมาะสมและเงื่อนไขพร้อม